HDTV และ SDTV คืออะไร
ว่ากันด้วยเรื่องของทีวี ทุกวันนี้ก็มีมาให้เลือกกันมากมายหลายยี่ห้อเลยนะคะ ซึ่งราคานั้นก็แตกต่างตามความสามารถ รูปทรง และ ปัจจัยอื่นๆที่ทำให้บางครั้งเราก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทีวีแต่ละรุ่นนั้นมีคุณสมบัติอย่างไร เพราะบางครั้งถ้ามองแค่ภายนอก หรือเทียบกันที่ขนาดของจอภาพอาจพบว่า ทีวีที่มีขนาดเล็กนั้นมีราคาที่สูงกว่า ในขณะที่ทีวีจอใหญ่มหึมากลับมีราคาที่ถูกโดนใจอะไรประมาณนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจเรามาทำความรู้จักกับทีวีที่คุณกำลังสนใจอยู่ดีกว่าค่ะ
HDTV ( High Definition Television )
คือ "โทรทัศน์ความคมชัดสูง" เรียกกันสั้นๆว่า HDTV หรือ ทีวีระบบ ไฮ-เดฟ นั่นเอง มีการรับส่งสัญญาณภาพในแบบจอกว้าง(Wide screen ) มีอัตราส่วนการแสดงผลของจอภาพอยู่ที่ 1280 x 720 พิกเซล และระบบ " Full HDTV" ที่ให้ความละเอียดของจอภาพอยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล
HDTVโดยทั่วไปจะเป็นระบบดิจิตอลที่ให้ความละเอียดของภาพ และระบบเสียงรอบทิศทาง เพิ่มอรรถรสในการรับชมทีวีได้สมจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากทีวีแล้ว จอภาพแบบ HD ยังนำไปใช้กับโทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป กล้องวงจรปิด และหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกด้วย
ตัวอย่างความละเอียด
- 480p = 338,000 pixels / frame (704 x 480)
- 720p = 922,000 pixels / frame (1280 x 720)
- 1080i = 1,037,000 pixels / frame (1920 x 1080)
- 1080p = 2,074,000 pixels / frame (1920 x 1080)
Full HD มีขนาด 1,920 x 1,080p
HD มีขนาด 1,280 x 720p
SD มีขนาด 720 x 480
SDTV ( Standard Definition Television )
คือ "โทรทัศน์ความคมชัดปกติ" หรือ "โทรทัศน์ความชัดเจนมาตราฐาน" เป็นการส่งสัญญาณภาพในรูปแบบอนาล็อกที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน มีการแสดงภาพอยู่ 3 ประเภท คือ NTSC, PAL, และ SECAM มีอัตราส่วนการแสดงผลของจอภาพอยู่ที่ 720 x 480 พิกเซล ซึ่งมีความละเอียดในการแสดงผลที่ค่อนข้างน้อย แม้ว่าเราจะดูทีวีที่มีขนาดจอกว้างขึ้น แต่ความคมชัดของภาพก็ไม่เพิ่มขึ้นเท่าที่ควร นี่จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การพัฒนาระบบการส่งสัญญาณทีวีเป็นระบบดิจิตอลที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้
ตัวอย่างความละเอียดการแสดงภาพ
- NTSC (National Television System Committee)
60 Field/second , 30 Frame/second , 525 Line/Frame
- PAL (Phase Alternate Line)
50 Field/second , 25 Frame/second , 625 Line/Frame
- SECAM (Sequential Color and Memory)
50 Field/second , 25 Frame/second , 625 Line/Frame
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็วนะคะ การศึกษาข้อมูลก่อนจ่ายเงินซื้อในแต่ละครั้ง ก็เป็นตัวช่วยที่ดีที่ทำให้ประหยัดเวลาในการเลือกซื้อสินค้า และได้ของที่ถูกใจกลับมาด้วยค่ะ ^^
ที่มา : ทีวีดิจิตอล.ไทย